จำไว้ว่า ฉันยืนข้าง ดอกบัวดิน

Monday, October 20, 2008

นกเขา เข-ม-ร ขัน

ขอบคุณภาพจากเน็ต




ระมัดระวัง สงบดี สงบได้

น่าติชม ความสนใจ

ที่แย่งแบ่งความสนใจ

ออกจากก้อนเค้ก

ระหว่าง หนู กับหนู

แต่ ทว่า พ่อไก่โต้ง

ขันกระโตก ปลุกมนุษย์

ด่าสาบแช่ง ด่ากัน

เพื่อเขาเหล่านั้นขำขัน ได้เบิกบาน

ความชั่ว ดอกไม้นิยม

เลี้ยงกันในหมู่มนุษย์

ผู้อยากจนความดี



ต้น บัวดิน 51

ตาย

ขอบคุณภาพจากเน็ต
ดอกไม้ในแสงแดดร้อน

กลิ่นมันหอมระเหิดหมดเนื้อใจ

ฟ้าระเบิด แดงเฉือดฉานกลิ่นคาวเนื้อเลือด

ชาติไทยร้องเพลง ชาติกันไม่เข้าใจ

ตรงนี้ดิน ตรงนี้บรรพบุรุษเราเกิด

ตรงนี้ทางใช้เดิน ระหว่างนี้ไม่มีอะไร

นอกจากคำว่าเมตตาต่อ สรรพสัตว์ที่สิงสถิต

ที่สิงสถิตมหาจักวานจิตใจที่เศร้าหมอง

ลมพัดผ่านข้ามทุ่งนรกไปจนถึงสวรรค์ทุกชั้น

หอบพาบทกวีของฉันไป ปลูกไว้ ณ พื้นดินที่อุดมผู้คน จะได้ใหม

ฉันปลูก ต้น บัวดิน เบิกบานกลางผู้คน ที่มืดหม่น ช่างทมทุกข์จมฟ้าดิน

ฉันจะเขียนคำง่าย และ ไม่จำเป็น จดจำฉันในฐานะอะไรหรอก ไม่จำเป็น

อาจจะไม่ใช่กวีคำล้างผาน ระเบิดแข้งขากัน ไม่มีระเบิด ไม่มีพวกพรรคใด

ฟัง มา ฟัง เสียงงดงาม มันไม่ได้มาจากท้องฟ้า นภาห้องจินตนาการมารใด

เธอฟังไม่ออก หรือ มองไม่ได้ยิน ที่รัก โลกมันโศกสักแค่ใหน

เหตุอันใดเจ้าดวงใจถึงห้าวหาญเข็ญฆ่ากัน ใยจึงหรอกลวงกัน

หรือเหตุว่า คือสิ่งที่ต้องกระทำ จึงบรรเลงบทเพลงมหรรณพแห่งท่วงทุกระทมกันเพียงนี้

หรือว่า ดอกไม้งอกในแสงแดดจึงเก็บเกี่ยวชั่วแห่งทุกประดาห่วงหัวใจ

เธอบันเทิงดีดดิ้นระบำต่อสู้กันทุกภพชาติไป เหตุไฉนสันติจึงอับเฉา

หากสายขาด พิณจะบรรเลงได้อย่างไร้กัน เพื่อนรัก

ฉันมองเห็นเปลวแดดร้อนเป็นดอกไม้

กลิ่นหอมมันหยดหมดเนื้อใจ

หมดหยดสุดท้าย

คือจริง
เรา
ตาย


ต้น บัวดิน 51