จำไว้ว่า ฉันยืนข้าง ดอกบัวดิน

Sunday, December 17, 2006

Solo Exhibition

The Composite Arts

การแสดงผลงานศิลปะ ครั้งนี้เป็นการนำเสนอผลงาน 3 ส่วน คือ ภาพวาด เขียน , ภาพถ่าย และ, บทกวี (Visual, Photographyand, Poetry) แน่นอนที่สุดศิลปะยังคงมีอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง แต่สามส่วนนี้ข้าพเจ้าได้แสดงออก เชิงศิลปกรรม นอก-ใน-นอก ถึงพลังงานเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมานมนานหลายยุคหลายสมัย จากคนสู่คน จากยุคไปสู่ยุคหนึ่งไม่เสื่อมคลายหากแต่สืบพันธุ์ทอดแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยไม่จบสิ้น ศิลปะ (Arts)



ในบรรดาศิลปะทั้งหลายแหล่ อยู่ภายใต้ร่มเงาของสุนทรียศาสตร์ (Aesthetics) และสุนทรียศาสตร์อยู่ภายใต้ปรัชญา (Philosophy) การนำเสนอผลงานครั้งนี้ เป็นการแสดงออกไม่ใช่เพียงแค่การคิดการสร้างสรรค์แต่เป็นทั้งการลงมือกระทำจากแรงดลดาลใจให้ต้องแสดงออก ภายใต้ความเป็นจริง สัตย์จริง และความจริง จึงแสดงออกเต็มไปด้วยเหตุและผล ประจักษ์จริงแก่สาธารณชุมชนนี้ โดยสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตในรูปลักษณะ Electronic Gallrery ซึ่งผลงานที่ปรากฏไม่ได้ทำแค่ประเดี๋ยวประด๋าว ข้าพเจ้าได้ทำการศึกษาและลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็นเวลามากนับตั้งแต่ข้าพเจ้าเริ่มหลงรักศิลปะ ศึกษาเองและตลอดจนศึกษาจากครูบาอาจารย์ท่านผู้รู้ ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือล่วงลับไปแล้ว ด้วยความเคารพ ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ถ้อยคำดังกล่าวเป็นถ้อยคำที่ฝั่งแน่นด้วยเหตุผลความรู้สึกมากมายเหลือคณาบรรยายได้ ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งใจอย่างล้นปรี่ถึงคุณค่าที่ส่งมายังข้าพเจ้า จดจำมิรู้ลืม ข้าพเจ้าต้องใจมั่นมากขึ้นสมกับที่เกิดเป็นมนุษย์ ผ่านพบทุกท่านโดยเจตนาและไม่เจตนา ให้สมบูรณ์เจตนาที่ข้าพเจ้ารักศิลปะอย่างหมดเปลือก กายวาจาและใจ หมดข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น


งานที่แสดงครั้งนี้เป็นการทำงานผสมผสานกัน ทั้งสามอย่างและเป็นการร่วมมือกันถึงกับเป็นปี่เป็นขลุ่ยไม่ขัดแย้งกันเพราะทั้งสามแสดงออกถึงความจริง ความงาม ความรู้สึก เป็นสุนทรียญาณ (Aesthetic Contemplation) จากการบ่งการทางจิต วิญญาณ สติ ปัญญา และสมาธิของข้าพเจ้าเอง หล่อหลอมเป็นพลังงานเอิ่อล้นออกเป็นผลงานทั้งสามทางนี้บ่งบอกสภาวะความเป็นมนุษย์ต่ำศักดิ์ ต่ำต่อยของข้าพเจ้าเอง

วันหนึ่งคืนหนึ่ง ค่ำมืดแจ้งแท้บไม่มีความหมายอะไร ข้าพเจ้าสำแดงพลังอารมณ์ (Expressionism) ลงบนกระดาษวันแล้ววันอีก โดยที่ข้าพเจ้าเปลี่ยนพลังงานของเสียงเป็นพลังงานของสีภายใต้ค่ำคืนโดดเด่นแห่งความโดดเดี่ยวรักษาสงบไว้ในจิตใจให้ตั้งมั่น ข้าพเจ้าทำงานชิ้นแล้วชิ้นเล้าไม่ตกใจว่าพายุฝน แดด หนาวทุกข์ หิวกระหายจะมาเยือนแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายินดีตอนรับอย่างไม่หวาดหวั่น กับสมาธิที่ตั้งมั่นแล้ว ข้าพเจ้าได้น้อมใจสร้างสรรค์ชิ้นงานทั้งสามรูปแบบโดยรักดุษฎีปรีดาสุดหัวใจ เป็นที่สุดมิได้

การทำงานของข้าพเจ้าไม่จำกัดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนเพราะบรรยากาศทำงานไม่ขึ้นต่อสิ่งใดๆ แต่เป็นอิสระเฉพาะไม่เจาะจง รวมแล้วเป็นความต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน ข้าพเจ้ายังคงดำเนินจิตกิจการทั้งภายในและภายนอกอยู่อย่างนี้เช่นเคย อนึ่ง ข้าพเจ้าสามารถมีญาณทัศนะ มอง รู้ ดูออก ฟังรู้ฟังเป็น แล้วเลือกได้ว่าสิ่งที่แท้ควรจะอยู่ในใจของข้าพเจ้าได้นั้น ข้าพเจ้าขอกราบเท้าคุณแม่ของข้าพเจ้าทุกค่ำคืนทั้งหลับและตื่น คำใดไม่เทียบเท่าได้ ข้าพเจ้าขอเอาตัวของข้าพเจ้าเอง ตั้งใจทำงานเพื่อเป็นสิ่งหนึ่งว่าข้าพเจ้า รักแม่ แม้เพียงน้อยนิดข้าพเจ้าต้องสำนึกเสมอเพื่อท่านจะได้คลายกังวนที่มีต่อสภาพ สภาวะของข้าพเจ้าเอง

ครูบาอาจารย์ทั้งทางโลกและทางธรรมะ ทั้งมีชีวิตอยู่และล่วงลับไปแล้วข้าพเจ้าของกราบบูชา ด้วยจิตคารวะอย่างสุดซึ้ง เพื่อนๆ ทั้งทางไกล้และทางไกลจงรับรู้ว่าข้าพเจ้ากำลังเดินทางไกลและท้ายที่สุดข้าพเจ้าไม่ทราบว่าจะจบลงอย่างไรขอพวกท่านจงสุขใจรักษาตัวตนให้พ้นจากทุกข์ภัยด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเทิด

จึงขอสวัสดีแก่ทุกท่าน

ศุภชัย สุริยุทธ


โปรด ติดตามตอนต่อไป และขอขอบพระคุณที่เยี่ยมชมครับ

Saturday, December 16, 2006

ภาพเขียน

เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน

เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน

เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน

เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

Friday, December 15, 2006

ภาพเขียน

เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพถ่าย


ถ่ายภาพโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพถ่าย


ถ่ายภาพโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพถ่าย


ถ่ายภาพโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพถ่าย


ถ่ายภาพโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพถ่าย


ถ่ายภาพโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพถ่าย


ถ่ายภาพโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพถ่าย


ถ่ายภาพโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน

เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพวาด


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพวาด


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพวาด


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพวาด


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut
เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ

All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut


ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพวาด


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน

เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ภาพเขียน


เขียนโดย ศุภชัย สุริยุทธ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

ฉันเดิน

ถึง ลม

ก็ ลม

ฝุ่น ก็

ฝุ่น หนาว

ก็ หนาว

ร้อน ก็

ร้อน ฝน

ก็ ฝน

ฉัน เดิน
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

Wednesday, December 06, 2006

ฉันคือเรือบก

ปีกนกกระพือคำความรัก
นกกางปีกคำกล้าหาญ
ฝูงปลาลอยคำนำอ่อนหวาน
น้ำกระทบแสงจับพร่างเพลิดวรณ์แสง
นำพัดพาแสงพร้าพลางตาฟ่าฟาง
การเคลื่อนล่อนไหลคือจังหวะน้ำหายใจ
ฉันเอาคำคำหนึ่งวางเวิ้งเจ้าพระยา
คำคำนั้นลบไม่ออกพื้นน้ำเนื้อจิต
ลมพัดเลียบเลียเจ้าพระยาที่รัก
น้ำละอองฝุ่นกระเซ็นเย็นหอมรัก
แดดแป็บป็าบสาดแสงดวงใจ
โลมกายไหวไหวแนบแว็บเบา
ฉันรินน้ำตากลางสายลม
เรือว่ายน้ำ ฉันคือเรือบก หลงรักสายน้ำ

4 .10. 49
บนเรือและท่าเทเวศน์
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

Sunday, November 26, 2006

เรื่องปะติดปะต่อ




ฉันได้กลิ่นหอมดอกกุหลาบสีขาวลอยมาจากดินแดนแห่งรัก หอบมากับสายลมแห่งความคิดถึงของเธอ หลังจากพระอาทิตย์ไกล้จะลาพื้นแผ่นดินตะวันออกของวันนี้ ฉันรู้ดีว่าตอนนี้ฉันอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง แต่โลกแห่งความเป็นจริงของฉันมีอีกโลกหนึ่ง เป็นสถานที่สวยงามเกินกว่าที่ฉันจะนำมาบรรยายถึงบรรยากาศปราบปลื้ม ใช่ใช่ฉันรู้ดีตอนนี้ฉันกำลังกว้าวเท้าซ้ายอยู่และพยายามต่อด้วยกว้าวเท้าขวาตามมา ฉันทราบดีและสบายดีด้วย ฉันได้ผ่านล่วงสมัยกาลเวลามานานแล้วเพียงเก็บเงียบไม่บอกใครๆ ถึงฉันอธิบายหาคนผ่องใสเข้าใจไม่ ฉันไม่จำเป็นสาธยายน้ำลายให้ฟูฟ่องป่วยการจะสารภาพให้หมดเนื้อใจ เพราะสิ่งที่มันเป็น เป็นความจริงที่ฉันไม่อาจปฏิเสธได้ว่าฉันเดินทางมาถึงต้นน้ำแล้ว

ค่ำคืนนี้ฉันนั่งจองไปยังดวงตาของท่านลีโอ ตอลสตอย ดูคล้ายกับว่าท่านกล่าวเตือนฉันว่าอย่าโอหังให้มากนักนักเลยนะ เพราะสิ่งที่เป็นตอนนี้หาใช่การหลุดออกจากตาข่ายความทุกข์เป็นสิ่งที่ทนได้ยาก จงเฝ้าเรียนรู้ประหยัดความคิดชั่ว มักกำเนิดจากความนอกคอกความไร้สติ ดังที่มันเกิดอยู่ทุกๆ วันในมนุษย์ ค่ำคืนนี้ฉันสนทนากับลีโอ ตอลสตอย ฉันเพ้อไปว่าในรูปนั้นมีชีวิตจริงๆ ท่านเล่นอยู่บนม้านั่งในบรรยากาศที่สุขสงบ ไม่หวั่นไหวในโชคชะตาแห่งสายลมหนาว ทุกๆ ฤดูในพื้นภิพภตลอดราตรียามพบค่ำ

ฉันได้กลิ่นหอมดอกกุหลาบสีขาวลอยมาจาแดนใด


All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

Sunday, November 19, 2006

เสียงดนตรีกับเจ้าม้านั่ง

ริมถนนและม้านั่ง
หน้าบ้านใจบุญ ราชครู
บ่นความในใจให้ม้านั่งฟัง
เจ้าไม่เคยสงสัย
หรืออย่างไร
ทำไมข้าถึงมานั่งเจ้า
ข้าขอคลายทุกข์เดียวด้าว
ทำไมเจ้าไม่เอยถามข้าบ้างละ
ถามสักคำชิสุขทุกข์ดีอย่างไร
ข้าเพียงแค่สัญจรผ่านมา
ช่างใจบุญ ขอขอบใจ
หลังของเจ้าแข็งแรงทนทานแดนลมฝน
เวลานี้หน้าหนาวแล้วเจ้าจะอยู่อย่างไร
ผู้คนมากมายขอนั่งเลยผ่านเลย
ค่ำนี้ข้าจะเล่นดนตรีเป็นเพื่อนเจ้า
เสียงฟังดูอาจเศร้า จะลำนำเจ้าไป
ท่ามกลางความหนาวเย็นฤดูหนาว
จงอย่าอาวรณ์นิวรณ์ดงแดนใด
เจ้าม้านั่งเจ้าเอ๋ย สหายข้า
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

Friday, November 17, 2006

เป็นในสิ่งทำคิด คิดทำ

ฉันไม่ไช่ รูปสุวรรณชั้นใน
ฉัน มั่นใจในสิ่งที่ฉันจึงทำ
ฉันเป็นเพียงเงาะป่าบ้าใบ้
รูปชั่วตัวดำ กลางดงปราชญ์
สยามเทวาลัยสถานวิมานกรุงฯ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

โปรดฟังอีกครั้ง กลับเถิดดวงฤดี

เอ๊ะแสงอะไรนั้น
เหตุใดเจ้าถึง
ร้องให้กลางฤดูฝน
หนาวอะไรมาเกาะหัวใจ
เหตุใดเจ้าถึง
เย็นเยียบกลางฤดูร้อน
เจ้าเป็นอะไร เจ้าเป็นอะไรไป
วันนี้เป็นวันอะไรเดือนใหน
พ.ศ. ที่เท่าไหร่จำได้ใหม
กลับมาได้ไหม สถิตย์กับฉัน
กลับมาได้ไหม กลับมาเป็นคนเดิม
ฉันจะดูแลเจ้าเอง เจ้าดวงฤดีของข้า
ไม่เร่ร่อนทะยานยากกับสิ่งใด
ข้างนอกมันโหดและเหน็บหนาว
เจ้ารู้ดี
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

มีค่าที่ไม่ต่าง

www.colorsofbangladesh.com


ความรู้สึกหนึ่งหนึ่งในใจลึกลึก
คุณรู้ไหมวันหนึ่งนั้นนั้นไม่มีความหมาย
เวลาหนึ่งนั้นคล้ายว่าฉันไม่ไช่คน
หากแต่เป็นเพียงก้อนเนื้อ
ยังดีมีแตลมหายใจ
ใจมันลอยลิบลี่ไปกับคลื่นไร้ตัวตน
เพราะฉันหลงรัก ฉันจึงเป็นอย่านี้
เข้าใจไหมเวลาที่ฉันอยู่มีค่าเท่ากับเวลาที่ฉันตาย
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut

นั่งกลางจิตกาย

www.getoilpaintings.com


ฉันจำได้ว่า
ฤดูใบไม้ร่างล้าง
ของปีก่อนโน้น
ลมได้ผัดใบไม้แห้ง
ไหลชลูดลงดิน
ฉันจำได้ว่า
ใบไม้แห้งร่วง
สู่พื้นดิน
และตัวของฉันเต็มไปด้วย
เศษของใบไม้แห้ง
ลมหนาวที่เย็นเยียบ
All Rights Reserved.
Copyright©2006 Suppachai Suriyut